นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) สนับสนุนให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (privacy policy) นี้ เนื่องจากนโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบาย ดังต่อไปนี้
1. ขอบเขตของนโยบาย
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) นี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายวิธีการที่บริษัทเก็บรวมรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิที่ท่านมีเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ทั้งนี้ บริษัทมีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลที่บริษัทได้ประมวลผล โดยบุคลากรทุกคนในทุกหน่วยงานของบริษัทมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้
2. คํานิยาม
- 2.1. “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง กฎหมาย ระเบียบ และข้อกำหนดทางกฎหมายอื่น ๆ ทั้งปวง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ”
- 2.2. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใดๆ ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยแบ่งประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- 2.2.1. ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป หมายถึง ชื่อและนามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ชื่อผู้ใช้ อีเมล หรือข้อมูลใดๆ ที่มีชื่อของบุคคลนั้น หรือมีเลขหมาย รหัส หรือสิ่งอื่นใดที่ทําให้รู้ตัวบุคคลนั้นได้ เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ แผ่นบันทึกลักษณะเสียงของคน หรือรูปถ่าย
- 2.2.2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทํานองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- 2.3. “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่นิยามไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- 2.4. “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่นิยามไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- 2.5. “บริษัท” หมายถึง บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่บริษัทมอบหมาย
3. การเคารพในสิทธิส่วนบุคคล
บริษัทเคารพและให้ความสําคัญถึงสิทธิ ข้อมูลส่วนบุคคล และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทตระหนักดีว่าท่านย่อมประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจํากัด
- 4.1. บริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมข้อมูลและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทําเพียงเท่าที่จําเป็นแก่การดําเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทและตามที่กฎหมายกําหนดเท่านั้น
- 4.2. บริษัทในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทําการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่
- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
- เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
- เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
- เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น
- 4.3. บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นและได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามข้อ 4.2. เท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น
- 4.4. บริษัทอาจสอบถามและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมจากท่านเพื่อให้ข้อมูลนั้นมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์อยู่เสมอ
5. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์การให้บริการ ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาในการจัดเก็บ สิทธิตามกฎหมายของท่านต่อข้อมูลส่วนบุคคล และหน่วยงานที่ท่านสามารถติดต่อเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และบริษัทจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากท่านก่อน
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน รวมถึงบริการที่ท่านสนใจ หรือบริการอื่นใด หรือการจัดทำบริการทางดิจิทัล หรือการวิจัยตลาดและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ การจัดทำฐานข้อมูล และใช้ข้อมูลเพื่อนำเสนอบริการ สิทธิประโยชน์ หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ตามความสนใจของท่าน
บริษัทจะจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์เหล่านั้นเท่านั้น และจะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่
- ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ท่านทราบ และได้รับความยินยอมจากท่าน
- เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
6. การนําข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างจํากัด
- 6.1. บริษัทในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านและจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น บริษัทจะดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์หรือต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่
- เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
- เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
- เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
- เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น
- 6.2. บริษัทอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการภายนอกเพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด
- 6.3. ในบางกรณีบริษัทอาจให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่ เป็นกรณีที่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
7.มาตรการและวิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และพัฒนาระบบการจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศให้สอดคล้องตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมถึงสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ของบริษัท และผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
หากท่านสงสัยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยแก่บุคคลภายนอก หรือสูญหาย หรือถูกขโมย และได้มีการทำรายการโดยมิได้รับอนุญาต กรุณาแจ้งบริษัททันที
8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด ดังต่อไปนี้
- 8.1. สิทธิในการขอเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเอง หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนในกรณีที่เป็นข้อมูลซึ่งท่านไม่ได้ให้ความยินยอมในการรวบรวมหรือจัดเก็บ
- 8.2. สิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
- 8.3. สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเองจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
- 8.4. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือไม่อนุญาตให้บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผล เว้นแต่กรณีที่บริษัทพิสูจน์ได้ว่าบริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างท่านและผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือโดยอาศัยสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายอื่น
- 8.5. สิทธิขอให้ดำเนินการลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่กรณีบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
- 8.6. สิทธิขอระงับการใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน
- 8.7. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ การเพิกถอนดังกล่าวจะไม่ส่งผลใดๆ กับการประมวลผลข้อมูลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
- 8.8. สิทธิในการร้องเรียน ในกรณีที่บริษัทรวมถึงลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ท่านสามารถยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ ณ ที่ทำการของบริษัท หรืออีเมล hrm@CPTthailand.com เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้วบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาภายใน 30 วัน หรือภายในระยะเวลาอันสมควร อย่างไรก็ตาม สิทธิดังกล่าวอาจมีข้อจำกัดตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และบริษัทจะบันทึกคำร้องขอดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
9. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- 9.1. บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของบริษัท หรือเป็นการจำเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เท่านั้น เว้นแต่คำสั่งนั้นขัดต่อกฎหมายหรือบทบัญญัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้
- 9.2. บริษัทจะจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาที่บริษัทกำหนด หรือตามข้อตกลงในสัญญาบริการ หรือคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความยินยอม หรือดำเนินการตามที่ท่านร้องขอ หรือที่ท่านได้ถอนความยินยอม เว้นแต่เก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด
10. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงและการเปิดเผยนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะพิจารณาทบทวนปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัท และให้มีความทันสมัยและเป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้อย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทจะเปิดเผยนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัท หรือช่องทางอื่นๆ ตามความเหมาะสม
11. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
12. บทกำหนดโทษ
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ หากละเลย หรือละเว้นไม่สั่งการ หรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตนเอง อันเป็นการฝ่าฝืนนโยบาย และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมาย และ/หรือความเสียหายขึ้น ผู้นั้นต้องรับโทษทางวินัยตามระเบียบของบริษัท ทั้งนี้ หากความผิดดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และ/หรือบุคคลอื่นใด บริษัท อาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
13. นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
เว็ปไซต์ www.CPTthailand.com (“เว็บไซต์”) นี้ ให้บริการโดยบริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้และเครื่องมืออื่นเพื่อช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น
- 13.1. คุกกี้คืออะไร
คุกกี้คือข้อความขนาดเล็กที่ประกอบด้วยส่วนของข้อมูลที่มาจากการดาวน์โหลดที่อาจถูกเก็บบันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้งานหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต (อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของท่าน) โดยที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์สามารถเรียกดูได้ในภายหลัง คล้ายกับหน่วยความจำของหน้าเว็บ
การทำงานของคุกกี้ ช่วยให้เรารวบรวมและจัดเก็บข้อมูลการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านดังต่อไปนี้โดยอัตโนมัติ
- 1.1 อินเตอร์เน็ตโดเมนและ IP Address จากจุดที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์
- 1.2 ประเภทของเบราว์เซอร์ซอฟต์แวร์ ตลอดจนโครงสร้างและระบบการปฏิบัติงานที่ใช้ในการเข้าสู่เว็บไซต์
- 1.3 วันที่และเวลาที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์
- 1.4 ที่อยู่ของเว็บไซต์อื่นที่เชื่อมโยงท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของเรา หน้าเว็บที่ท่านเข้าเยี่ยมชม และนำท่านออกจากเว็บไซต์ของเรา รวมถึงเนื้อหาบนหน้าเว็บที่ท่านเยี่ยมชมและระยะเวลาที่ท่านใช้ในการเยี่ยมชม
- 13.2. นโยบายการใช้เทคโนโลยีการติดตาม (Cookie Policy)
นโยบายการใช้เทคโนโลยีการติดตาม (คุกกี้) ถูกใช้งานบนเว็บไซต์ ซึ่งเว็บไซต์มีการใช้คุกกี้และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายๆกัน แนะนำให้อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว คู่กับนโยบายการใช้เทคโนโลยีการติดตามนี้
การใช้เทคโนโลยีการติดตาม เป็นมาตรฐานทั่วไปบนอินเตอร์เน็ต และเบราวเซอร์สำหรับท่องอินเตอร์เน็ตทั่วไปจะตั้งค่ายอมรับการใช้งานคุกกี้อัตโนมัติ อย่างไรก็ตามการตัดสินใจว่าใช้คุกกี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณ คุณสามารถเลือกที่ยอมรับหรือไม่ยอมรับการใช้งานคุกกี้นี้ได้ หรือจะตั้งค่าเบราวเซอร์เพื่อไม่ยอมรับการใช้งานงานคุกกี้
- 13.3. การใช้งานคุกกี้
ประเภทของคุกกี้ที่เราใช้และในการใช้คุกกี้ดังกล่าว ประกอบด้วย แต่ไม่จำกัดเพียง รายการต่อไปนี้
- 13.3.1. คุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies): คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย
- 13.3.2. คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงานของเว็บไซต์(Analytical/Performance Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราสามารถจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ตลอดจนช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น อีกทั้งเพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์โดยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาของเรา
- 13.3.3. คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies): คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำตัวท่านเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถปรับแต่งเนื้อหาสำหรับท่าน ปรับให้เว็บไซต์ของเราตอบสนองความต้องการใช้งานของท่าน รวมถึงจดจำการตั้งค่าของท่าน อาทิ ภาษา หรือภูมิภาค หรือขนาดของตัวอักษรที่ท่านเลือกใช้ในการใช้งานในเว็บไซต์
- 13.3.4. คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies): คุกกี้ประเภทนี้จะบันทึกการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน หน้าเว็บที่ท่านได้เยี่ยมชม และลิงค์ที่ท่านเยี่ยมชม เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับให้เว็บไซต์และเนื้อหาใดๆ ที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บตรงกับความสนใจของคุณมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังอาจแชร์ข้อมูลนี้กับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว และการตั้งค่าคุกกี้
ท่านสามารถบล็อกการทำงานของคุกกี้ได้โดยการกำหนดค่าในเบราวเซอร์ของท่าน ซึ่งท่านอาจปฏิเสธการติดตั้งค่าคุกกี้ทั้งหมดหรือบางประเภทก็ได้ แต่พึงตระหนักว่าหากท่านตั้งค่าเบราวเซอร์ของท่านด้วยการบล็อกคุกกี้ทั้งหมด (รวมถึงคุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน) ท่านอาจจะไม่สามารถเข้าสู่เว็บไซต์ทั้งหมดหรือบางส่วนของเราได้
เมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการยกเลิกความยินยอมการใช้งานคุกกี้ ท่านจะต้องตั้งค่าเบราวเซอร์ของท่านเพื่อให้ลบคุกกี้ออกจากแต่ละเบราวเซอร์ที่ท่านใช้งาน
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการดังกล่าว โปรดเลือกหัวข้อ “ความช่วยเหลือ” ในอินเตอร์เน็ตเบราวเซอร์ของท่านเพื่อศึกษาในรายละเอียดมากขึ้น
14. การติดต่อสอบถาม
หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่
1. แผนกทรัพยากรบุคคลบริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ 230/7 ถนนเทศบาลรังรักษ์เหนือ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
เบอร์โทรศัพท์ : 02-954 2590-2 ต่อแผนกทรัพยากรบุคคล
2. อีเมล : hrm@CPTthailand.com